20 ความจริงแปลกๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกนานาชนิด

บนโลกใบนี้ยังมีความจริงให้เราได้เรียนรู้และศึกษาค้นคว้าอีกมากมาย ซึ่งแม้กระทั่งคนที่มีความรู้มากอยู่แล้วก็ยังต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อค้นพบเรื่องราวเหล่านี้ โดยเฉพาะความจริงเกี่ยวกับสัตว์โลกแต่ละชนิดที่เหลือเชื่อมาก และในวันนี้เราจะพาไปพบความจริงเกี่ยวกับสัตว์โลกทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ที่เราต่างก็คุ้นเคยกันดีหรือสัตว์โลกที่หาตัวจับได้ยาก ซึ่งแต่ละเรื่องราวความจริงของพวกมันนั้นล้วนน่าสนใจและเหลือเชื่อไม่แพ้กันเลยทีเดียว

#1 เริ่มจากความจริงน่ารู้เกี่ยวกับ แพนด้า สัตว์โลกน่ารักที่เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจของผู้คนทั่วทั้งโลกโดยเฉพาะเด็กๆ โดยพวกมันเป็นสัตว์ที่สามารถนอนหลับได้ทุกที่ทุกเวลาทุกสถานการณ์ ถ้าเมื่อไหร่ที่อยากหลับ พวกมันก็จะหลับไปเลย

#2 ปลาหมึกยักษ์ เป็นปลาหมึกที่อาศัยอยู่ใต้ท้องทะเลลึก ซึ่งพวกมันมีขนาดตัวที่ใหญ่โตมโหฬารมาก เปรียบเทียบได้ง่ายๆ ก็คือดวงตาของพวกมันนั้นใหญ่ถึง 10 นิ้วหรือพอๆ กับศีรษะของมนุษย์คนหนึ่งเลยทีเดียว

#3 มนุษย์แต่ละคนมีลายนิ้วมือที่ไม่เหมือนกัน เราจึงสามารถใช้ในการระบุตัวตนของผู้คน และสุนัขเองก็มีสิ่งที่สามารถใช้ในการระบุตัวตนได้เช่นเดียวกัน ก็คือลายบนจมูกเปียกๆ ของพวกมันนั่นเอง

#4 ถุงหน้าท้องสำหรับบางชนิดอย่างเช่นจิงโจ้นั้นมีไว้เพื่อให้ลูกน้อยหลบซ่อนตัว แต่สำหรับ ตัวนาก พวกมันมีถุงเล็กๆ บริเวณคอเอาไว้ใช้เพื่อเก็บก้อนหินที่พวกมันชอบ

#5 แพะเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก แต่พวกมันก็มีความสามารถพิเศษที่ทั้งน่าประทับใจและน่าขนลุกเล็กน้อยซ่อนอยู่ นั่นก็คือมันสามารถมองไปรอบตัวของมันได้ 360 องศา เช่นเดียวกับดวงตาของแมลงวันเลยทีเดียว

#6 เราทุกคนคุ้นเคยกับลวดลายของเสือที่ปรากฎอยู่บนขนของมัน แต่รู้มั้ยว่าจริงๆ แล้ว นอกจากเสือจะมีขนลายแล้ว ผิวหนังของเสือก็ลายเหมือนกันนะ ซึ่งเป็นลายเดียวกับที่เราเห็นบนขนของมันนั่นแหละ ดังนั้นต่อให้โกนขนเสือออก ขนที่ขึ้นใหม่ก็จะยังคงเป็นลายเช่นเดิม

#7 เด็กๆ ทุกคนล้วนเคยดูดจุกนมหรือดูดนิ้วของตัวเองเพื่อให้รู้สึกสงบและผ่อนคลาย ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่ลูกมนุษย์เท่านั้นที่มีพฤติกรรมแบบนี้ แต่ลูกช้างเองก็ดูดงวงของตัวเองเพื่อให้รู้สึกสงบด้วยเช่นเดียวกัน

#8 ฉลามยักษ์ที่ไม่กัด ปลาฉลามอาบแดดนั้นเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่รองจากฉลามวาฬ ในขณะที่ขนาดตัวของมันนั้นใหญ่จนดูว่ามันสามารถกลืนกินปลาตัวใหญ่ๆ หรือมนุษย์ได้เลย แต่จริงๆ แล้วมันไม่มีอันตรายเลย เพราะมันกินแพลงตอนเป็นอาหารเท่านั้น

#9 ชีวิตของค้างคาวนั้นมีความซับซ้อนและสับสนมาก เพราะถึงแม้ว่าพวกมันจะสามารถรับคลื่นเสียงที่มีความถี่สูงอย่าง Ultrasonic noise ได้ แต่มันก็ต้องการหูที่ใหญ่ในการฟัง และถ้ามีหูใหญ่มันก็จะบินได้ลำบากมากขึ้น

#10 หลังจากผสมพันธุ์เสร็จสิ้น ปลาตกเบ็ด หรือ ปลาแองเกลอร์ จะสูญสิ้นตัวตนของมัน โดยอวัยวะเกือบทั้งหมดยกเว้นเหงือกและอวัยวะเพศของมันจะตาย ราวกับว่ามันมีหน้าที่เกิดมาเพื่อผสมพันธุ์เท่านั้นเอง

#11 นอกจากนกยูงจะใช้หางที่สวยงามและมีสีสันสดใสในการเกี้ยวพาราสีนกยูงตัวเมียแล้ว มันยังขยับหางเพื่อให้เกิดเสียงที่มีคลื่นความถี่ต่ำ ซึ่งนกยูงตัวเมียจะรับความถี่ได้จากหงอน

#12 คนที่เคยเจอกับยีราฟตัวเป็นๆ คงเคยเห็นว่ายีราฟนั้นนอกจากจะมีคอที่ยาวมากๆ แล้ว ลิ้นของมันยังยาวและมีขนาดใหญ่ด้วย ซึ่งลิ้นของยีราฟนั้นยาวจนมันสามารถเลียหูของตัวเองได้เลย

#13 ฟลามิงโกจะมีขนเปลี่ยนไปเป็นสีเทาถ้ามันไม่ได้รับสารอาหารมากพอ นั่นก็เป็นเพราะมันไม่ได้เกิดมามีขนสีชมพูตั้งแต่แรก แต่สีชมพูนั้นมาจากกระบวนการย่อยอาหารเมื่อมันกินสาหร่ายสีเขียวและสีน้ำเงินเข้าไป

#14 ลิงอุรังอุตังนั้นมีการส่งต่อความรู้และประสบการณ์ให้ลูกของมันด้วย โดยเมื่อแม่อุรังอุตังสัมผัสได้ถึงอันตราย มันจะพาลูกไปหลบซ่อน และเมื่ออันตรายผ่านพ้นไปแล้วจะมีการส่งสัญญาณให้ลูกเข้าใจว่าต้องหลบซ่อนเพราะอะไร

#15 นักวิทยาศาสตร์เคยทำการทดลองเพื่อดูว่าแฮมสเตอร์จะสามารถเก็บอาหารไว้ในแก้มของมันได้มากเท่าไหร่ ผลปรากฎว่ามันสามารถเก็บถั่วและผลไม้แช่อิ่มได้มากถึง 20 อัน โดยอันที่เก็บในแก้มไม่พอมันก็จะใช้ฟันงับไว้

#16 วาฬและโลมานั้นเป็นสัตว์ที่ฉลาดมาก ซึ่งพวกมันสามารถหาอาหารโดยใช้เทคนิคได้มากมาย ยกตัวอย่างเช่นวาฬหลังค่อมที่ใช้ฟองอากาศต้อนปลาให้มาอยู่รวมกัน หรือวาฬที่มักจะไปรออยู่ใกล้กับบริเวณที่มีนกบินอยู่และอ้าปากค้างไว้ ปลาตัวเล็กก็จะเข้าใจว่าในปากของมันคือถ้ำที่ปลอดภัยและว่ายเข้าไปในนั้นด้วยตัวเอง

#17 หลายคนคงเคยสงสัยเกี่ยวกับท่าทางการเดินของเพนกวินที่แปลกกว่าสัตว์ชนิดอื่น ซึ่งคำตอบนั้นง่ายมาก มันเดินแบบนั้นก็เพราะพวกมันอ้วน จึงต้องรักษาสมดุลไม่ให้ล้มลงไป

#18 หนูตะเภาเป็นสัตว์ที่มีการขยายพันธุ์ได้มีรวดเร็วที่สุดชนิดหนึ่ง โดยมันสามารถสืบพันธุ์ได้ตั้งแต่อายุ 55 วัน และหลังจากให้กำเนิดลูกแล้ว 2-15 ชั่วโมงต่อมามันก็สามารถสืบพันธุ์ต่อได้เลย

#19 เชาเชาเป็นสุนัขที่มีความพิเศษอยู่ตรงลิ้นของมันที่ต่างจากสุนัขพันธุ์อื่นๆ เพราะลิ้นของเชาเชาจะเป็นสีน้ำเงิน โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันน่าจะสืบเชื้อสายมาจากหมาป่าขั้วโลก ส่วนชาวจีนมีตำนานว่ามันเอาลิ้นเลียท้องฟ้า

#20 และปิดท้ายด้วยความน่าสนใจของคณะละครสัตว์ในออสเตรีย ที่ไม่สนับสนุนให้มีการทรมานหรือกักขังสัตว์ป่า จึงได้มีการใช้ภาพโฮโลแกรมรูปช้างมาแสดงแทนช้างตัวจริง

เครดิต brightside

แบ่งปัน