เรื่องราวของพี่น้องตระกูลคอลลีเยอร์

ย้อนกลับไปในปี 1930 พี่น้องคอลลีเยอร์ (Collyer Brothers) ชื่องของเขาคือ โฮเมอร์และแลงลีย์ คอลลีเยอร์ ทั้งคู่มีชื่อเสียงดังกระช่อนไปทั่ว ในฐานะของคนที่บ้าสมบัติที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ ทั้งคู่เกิดมาในบ้านที่มีฐานะดี มีพ่อเป็นแพทย์ชื่อดังประจำเมืองแมนฮัตตัน และเข้ารับการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย โฮเมอร์จบการศึกษาสาขากฎหมายการเดินเรือ ส่วนแลงลีย์จบวิศวกรรมและเคมี

จนกระทั่งในปี 1919 พ่อและแม่ของพวกเขาก็มาจากไปแบบกะทันหัน ทั้งคู่จึงไปอาศัยอยู่ในแมนชั่นหลังหนึ่ง (Fifth Ave) ซึ่งเป็นสมบัติของครอบครัว โดยประกอบอาชีพเกี่ยวกับกฎหมายและขายของจุกจิกตามประสาคนเสียที่พึ่งในครอบครัวไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ในปี 1932 โฮเมอร์ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดในสมองตีบ ส่งผลให้ต้องตาบอดทั้งสองข้าง แลงลีย์จึงต้องออกจากงานเพื่อมาดูแลพี่ชายนับแต่วันนั้น คอยดูแลอย่างไกลชิดแต่เขากลับไม่พาไปหาหมอเลยซักหนเดียว จนเงินที่มีนั้นหมดไป ไฟฟ้าและน้ำในบ้านก็ถูกตัดเนื่องจากไม่มีเงินจ่าย

แลงลีย์ เริ่มคิดอะไรออกบางอย่างโดยเข้าเริ่มออกไปตอนดึกทุกวันเพื่อนำขยะจากที่ต่างๆ ทั่วเมืองกลับมายังบ้านของเขา “หนังสือพิมพ์” คือหนึ่งในของสะสมที่ แลงลีย์ต้องการให้โฮเมอร์อ่านเมื่อดวงตากลับมาใช้งานได้ปกติ ซึ่งไม่นับรวม ขยะชนิดต่างๆ เช่น ขวดแก้ว จักรยานเก่า ของใช้ที่เก็บมาได้จากขยะในทุกคืนเป็นเวลาหลายปี ต่อมาแม้จะมีคนมาขอซื้อบ้านต่อจากพี่น้องคู่นี้ มูลค่า 125,000 ดอลลาร์ (4.1 ล้านบาท) ก็ถูกปฏิเสธไป

เมื่อขยะเหล่านี้ถูกค้นมายังบ้านทุกวัน มันจึงไม่มีที่ว่างสำหรับของใช้อื่นๆ หน้าต่างและประตูถูกขยะปิดไว้จนยากที่จะเข้าออกได้อย่างสะดวก นับแต่นั้นมาทั้งคู่ก็อาศัยอยู่ภายในบ้านโดยที่ไม่มีใครเคยทั้งคู่อีกเลย พวกเขาได้สร้างกับดักหลังมีหัวขโมยพยายามที่จะเข้ามาในบ้านเพื่อขโมยของมีค่า หลายต่อหลายครั้ง

ในปี 1947 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีเพื่อนบ้านได้กลิ่นเน่าอย่างแรงลอยออกมาจากบ้านของพี่น้องคอลลีเยอร์เมื่อเจ้าหน้าที่รุดไปตรวจสอบ ก็ต้องตกใจเพราะว่าบ้านไม่มีทางเข้าแล้วมันถูกปิดไปด้วยกองขยะที่ทับถมกันมาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งต้องใช้เวลาในการนำขยะออกอยู่นานพอสมควร แล้วตำรวจก็พบร่างของ โฮเมอร์ คอลลีเยอร์ นอนเสียชีวิตอยู่ที่กลางบ้านท่ามกลางกองขยะมหาศาลเพียงลำพัง โดยไม่พบ แลงลีย์ คอลลีเยอร์ น้องชายอยู่ด้วยเขาจึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยเพียงคนเดียว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ช่วยทำความสะอาดบ้านหลังนี้จนพบว่ามีขยะสะสมอยู่ในบ้านถึง 120 ตัน โดยใช้เวลานานกว่า 3 สัปดาห์เจ้าหน้าที่ก็พบศพของแลงลีย์ คอลลีเยอร์ ในสภาพจมกองขยะเสียชีวิต โดยคาดว่าน่าจะเป็นเพราะเขากำลังมุดผ่านกองขยะจนถูกขยะหล่นลงมาทับจนเสียชีวิต ราว 2 สัปดาห์ก่อนที่โฮเมอร์จะเสียชีวิตจากภาวะขาดอาหารและน้ำ

พี่น้องตระกูลคอลลีเยอร์ เป็นที่รู้จักในยุคแรกๆ ว่าเป็นโรค Disposophobia หรือ Hoarding Disorder ความกลัวที่จะต้องเสียหรือทิ้งของไปจนสะสมของที่ไม่ได้ใช้แล้ว (บางครั้งก็เป็นขยะ) ล้นบ้านโดยไม่รู้ตัว ส่วนใหญ่แล้วจะพบได้มากในเพศหญิง ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการทานยาและการฝึกสมาธิกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใครที่เริ่มพบว่าตัวเองกำลังเก็บที่คิดว่าจะใช้ไว้จนรกบ้านแล้วละก็คุณอาจเริ่มเป็นโรคนี้แล้วโดยไม่รู้ตัว

แบ่งปัน